top of page
Ramasun_181225_0072.jpg

Ramasun Historical Museum

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ค่ายรามสูร

34.jpg

The “Ramasun Camp History Museum.” This is a historical attraction which was a U.S. radar station during the Vietnam War (2nd Indochina War). It is considered to be the largest such station in Southeast Asia.

 

Ramasun Camp History Museum is located inside the Phraya Sunthorn Dhammathada Camp of the Royal Thai Army’s 1st Infantry Battalion, 13th Infantry Regiment, Tambon Non-Sung, Muang District, Udon Thani.

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ค่ายรามสูร สถานที่ประวัติศาสตร์ไม่ไกลจากตัวเมืองอุดรธานีมากนัก ประมาณ 18 ก.ม. เท่านั้น ที่นี่เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นอดีตฐานเรดาห์ของกองทัพสหรัฐอเมริกา สมัยสงครามเวียดนามหรือสงครามอินโดจีนครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นสถานีเรดาร์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้

 

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ค่ายรามสูร ปัจจุบันตั้งอยู่ในค่ายพระยาสุนทรธรรมธาดา กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 13 ตำบลโนนสูง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี

In 1964, the US Army bought this land from the villagers for 400 U.S. dollars. Encompassing a total area of approximately 800 rai, the U.S. military built a permanent stronghold for American soldiers stationed in Vietnam during the war. It had a complete range of facilities for the soldiers such as accommodation, sports center, etc. Most importantly was the radar and communications station used to communicate with units in Southeast Asia, spy on the Communists and control airplanes.

00.jpg
30.jpg

ในตอนแรกที่นี่เคยเป็นที่นาว่างเปล่า แต่ในปี พ.ศ. 2507 กองทัพสหรัฐฯ ได้ติดต่อซื้อที่ดินผืนนี้จากชาวบ้านนามว่านางสา ราษฎรในพี้นที่ ในราคา 400 ดอลลาร์สหรัฐ รวมพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 800 ไร่ 3 งาน 23 ตารางวา เพื่อเป็นที่มั่นอย่างถาวรให้กับทหารอเมริกันที่เข้าร่วมสงครามเวียดนามในสมัยนั้น ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งที่พัก ศูนย์กีฬา ฯลฯ และที่สำคัญที่สุดก็คือ "สถานีเรดาร์" เพื่อทำการติดต่อสื่อสารกับหน่วยต่าง ๆ ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อใช้สอดแนมฝ่ายคอมมิวนิสต์ และเป็นศูนย์ควบคุมการบินในขณะนั้น

Ramasun_181225_0073.jpg

This radar installation is the largest such instsallation in Southeast Asia and is one of the seven places in the world with similar structures. There are total of 48 circular pillars here, called the 7th Radio Research Field Station (7th RRFS) or Ramasun station. The name of the Ramasun camp was given by one of the Thai interpreters, and is named after a Thai myth. The name is from Ramasun, traditionally the Thai god of thunder, who saw Mekhala, the goddess of lightning and fell in love with her.

ในส่วนของสถานีเรดาร์ ถือได้ว่าเป็นสถานีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็น 1 ใน 7 แห่งของโลก มีการจัดตั้งเสาเป็นรูปทรงวงกลม รวมทั้งหมด 48 ต้น และเรียกที่นี่ว่า สถานีวิทยุวิจัยและค้นคว้าภาคพื้นดินแห่งที่ 7 (7th RRFS) หรือ ค่ายรามสูรนั่นเอง โดยชื่อของค่ายแห่งนี้มาจากล่ามชาวไทยได้เปรียบสถานีเรดาร์กับตำนาน เรื่องเมขลา - รามสูร โดยเปรียบเทียบสัญญาณเรดาห์ว่าเป็นสายฟ้าที่รามสูรขว้างขวานมาเป็นปฐมเหตุแห่งชื่อดังกล่าว จึงได้เรียกสถานที่แห่งนี้ ว่าค่ายรามสูรเรื่อยมา

99.jpg

After the Vietnam War was over, in 1976, the U.S. military moved some items and weapons from the Ramasun camp and gave them to the Royal Thai Army, which became the administrator of the base. In 1997, His Majesty King Rama IX bestowed the name "Phraya Sunthorn Dhammathada Camp" on this military camp.

 

In addition to radar station, the camp is also home to the Ramasun Camp History Museum. Underground tunnels are open to visitor, as well. The interior is a 300-meter-long corridor, 80 cm wide and 2 meters high. This tunnel was used to move or store signal equipment in order to protect it from the enemy. In the Ramasun Camp History Museum there are also photos of other interesting things, such as the old house building and museum buildings.

22.jpg
Ramasun_181225_0003.jpg

ต่อมาในปี พ.ศ. 2519 กองทัพสหรัฐฯ ได้ย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์บางส่วนออกไปจากค่ายรามสูร และได้ยกให้กองบัญชาการทหารสูงสุดในสมัยนั้นเป็นผู้ดูแลซึ่งก็ได้มอบหมายให้กับกองทัพบกเป็นผู้ดูแลไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อค่ายแห่งนี้ว่า "ค่าย พระยาสุนทรธรรมธาดา"

 

นอกจากสถานีเรดาร์แล้ว ภายในก็ยังมีการเปิดให้เข้าเที่ยวชมอุโมงค์ใต้ดินด้วย ภายในมีลักษณะเป็นทางเดินยาวกว่า 300 เมตร กว้าง 80 เซนติเมตร และสูง 2 เมตร มีประตูเข้า-ออก อุโมงค์แห่งนี้ใช้ในการเคลื่อนย้ายหรือเก็บอุปกรณ์สายสัญญาณสื่อสาร ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น อาคารบ้านพักเก่าแก่ และอาคารพิพิธภัณฑ์แสดงภาพถ่ายสมัยเก่าให้ได้ศึกษาอีกด้วย

How to get there..........การเดินทาง

The Ramasun Camp History Museum is open for tourists every day from 09.00 am to 4 pm. For more information, please call 088-729-1174.

พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น.
สอบถามรายละเอียด

โทร 042-295-159

bottom of page